สัญญาจ้างก่อสร้างกับบริษัทรับสร้างบ้านเป็นเอกสารสำคัญที่กำหนดขอบเขตและความรับผิดชอบของทั้งสองฝ่าย เจ้าของบ้านจึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนเซ็นสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และสัญญาจ้างก่อสร้างเป็นเอกสารสำคัญที่มีผลผูกพันระหว่างเจ้าของบ้านและผู้รับเหมาก่อสร้าง ดังนั้น เจ้าของบ้านจึงควรอ่านและทำความเข้าใจสัญญาจ้างก่อสร้างอย่างรอบคอบก่อนลงนามเพื่อที่จะได้ทราบถึงสิทธิและหน้าที่ของตนเอง รวมถึงข้อกำหนดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างบ้าน และศึกษาข้อควรระมัดระวังในสัญญาจ้างก่อสร้างกับบริษัทรับสร้างบ้าน ซึ่งข้อควรระมัดระวังในสัญญาจ้างก่อสร้างกับบริษัทรับสร้างบ้าน มีดังนี้
ตรวจสอบข้อมูลของบริษัทรับสร้างบ้าน : ก่อนเซ็นสัญญาควรตรวจสอบข้อมูลของบริษัทรับสร้างบ้านให้ละเอียด เช่น จดทะเบียนบริษัทถูกต้องหรือไม่ มีผลงานที่ผ่านมาเป็นอย่างไร มีใบอนุญาตประกอบกิจการหรือไม่
ระบุรายละเอียดของงานก่อสร้างอย่างชัดเจน : สัญญาควรระบุรายละเอียดของงานก่อสร้างอย่างชัดเจน เช่น ลักษณะของแบบบ้าน วัสดุที่ใช้ ระยะเวลาก่อสร้าง งบประมาณ เป็นต้น เพื่อให้เจ้าของบ้านสามารถตรวจสอบได้ว่างานก่อสร้างเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้หรือไม่
กำหนดค่าจ้างและวิธีการชำระเงิน : สัญญาควรกำหนดค่าจ้างและวิธีการชำระเงินให้ชัดเจน เช่น ค่าจ้างเหมาจ่าย หรือแบ่งจ่ายเป็นงวดงาน ค่างวดงานแต่ละงวดเท่าไหร่ จ่ายเมื่อใด
กำหนดระยะเวลาก่อสร้าง : สัญญาควรกำหนดระยะเวลาก่อสร้างให้ชัดเจน เพื่อให้เจ้าของบ้านสามารถติดตามความคืบหน้าของงานก่อสร้างได้
กำหนดเงื่อนไขการแก้ไขเปลี่ยนแปลงงาน : เจ้าของบ้านอาจต้องการปรับเปลี่ยนงานก่อสร้างในระหว่างการก่อสร้างได้ สัญญาควรกำหนดเงื่อนไขการแก้ไขเปลี่ยนแปลงงานให้ชัดเจน เพื่อให้เจ้าของบ้านและบริษัทรับสร้างบ้านสามารถตกลงกันได้
กำหนดเงื่อนไขการยกเลิกสัญญา : หากมีปัญหาระหว่างการก่อสร้าง อาจจำเป็นต้องยกเลิกสัญญา สัญญาควรกำหนดเงื่อนไขการยกเลิกสัญญาให้ชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสามารถดำเนินการได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
นอกจากข้อตกลงข้างต้นแล้ว เจ้าของบ้านอาจต้องการกำหนดข้อตกลงอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น เงื่อนไขการรับประกันงานก่อสร้าง เงื่อนไขการบำรุงรักษาบ้าน เป็นต้น และเจ้าของบ้านควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนเซ็นสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น บริษัทรับสร้างบ้านอาจไม่ดำเนินการก่อสร้างตามสัญญา เช่น ใช้วัสดุที่มีคุณภาพต่ำกว่าที่ตกลงกันไว้ หรือก่อสร้างไม่ตรงตามแบบแปลน, บริษัทรับสร้างบ้านอาจล่าช้าในการก่อสร้าง และบริษัทรับสร้างบ้านอาจไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น เป็นต้น ดังนั้น เจ้าของบ้านควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนเซ็นสัญญา เพื่อปกป้องสิทธิของตัวเองและได้รับบ้านที่มีคุณภาพตรงตามความต้องการ